ป่าชุมชนในมิติป่าราษฎร ที่มีความสำคัญในการรบเชื่อมเมืองแล้วก็บ้านนอก
กรรมวิธีป่าชุมชนได้สร้างประวัติศาสตร์ป่าดงภาคพสกนิกรด้วยการโต้แย้งสัมปทานไม้ เอามาสู่การพัฒนาแนวความคิด แบบ รวมทั้งการขับเขยื้อนหลักการป่าชุมชนมาไม่ต่ำยิ่งกว่า 30 ปี สามารถแต่งตั้งวิธีการสิทธิชุมชนอีกทั้งในรัฐธรรมนูญ และก็สร้างการยินยอมรับด้านสังคม แม้กระนั้นพลังการเคลื่อนไหวของชุมชนยังไม่อาจจะเปลี่ยนส่วนประกอบการรวมศูนย์อำนาจเมืองได้
ระหว่างที่กรรมวิธีป่าของชาวเมือง ก็ยังเป็นหน่ออ่อนเริ่ม แม้ว่าจะเพิ่มหน้าที่สำหรับการตรวจตราอำนาจเมือง แม้กระนั้นก็ยังไม่อาจจะยกฐานะโครงข่ายให้มีพลังความเคลื่อนไหวเชิงหลักการได้
การถักพลังกระบวนการป่าชุมชนแล้วก็วิธีการป่าของชาวเมืองก็เลยเป็นที่มีความสำคัญในการรบสำคัญที่จะสร้างความเคลื่อนไหวเชิงองค์ประกอบ รวมทั้งระบุวาระด้านสังคมได้ ฉะนั้นก็เลยเริ่มเกิดไอเดีย “ป่าชาวเมือง” เพราะแนวความคิด “ประชากร” (citizen) มีความนัยด้านการเมืองที่กว้างใหญ่ ในด้านหนึ่งเป็นวางอยู่บนฐานของสิทธิมนุษยชน ฉะนั้นการจัดการป่าชุมชนเพื่อการเลี้ยงชีพ เพื่อความมั่นคงยั่งยืนของกิน รายได้ และก็เพื่อสืบต่อวัฒนธรรมจารีตก็เป็นสิทธิมนุษยชนบนฐานชุมชน ในอีกด้านหนึ่ง “ชาวเมือง” ให้คำจำกัดความถึงการมีสิทธิในเชิงกว้าง อีกทั้งสิทธิสำหรับในการมีสภาพแวดล้อมและก็ร่างกายที่แข็งแรง สิทธิที่จะเข้าถึงทรัพยากรสาธารณะ มีส่วนร่วมระบุ พิจารณา และก็ส่งเสริมแนวนโยบายสาธารณะ นอกเหนือจากนี้ “ราษฎร” ยังครอบคลุมทั้งยังราษฎรในต่างจังหวัดรวมทั้งภาคเมือง ครอบคลุมฐานชุมชนตามวัฒนธรรมไปจนกระทั่งแต่ละคน กรุ๊ปประชากรสังคมอิสระ
ข้อตกลงเหตุความเคลื่อนไหวเชิงส่วนประกอบของป่าชุมชนแล้วก็ประชากร การเคลื่อนไหวกระบวนการป่าชุมชนแล้วก็กรรมวิธีป่าคนกรุงได้สะท้อนถึงข้อจำกัด ต้นสายปลายเหตุความเคลื่อนไหวเชิงส่วนประกอบหลายประการ ดังต่อไปนี้
เมืองและก็กลไกอำนาจเมือง บทเรียนป่าชุมชนแล้วก็ป่าประชากรที่แสดงส่วนประกอบอำนาจเมืองศูนย์รวมศูนย์อย่างเข้มข้น “ป่า” เป็นหลักที่อำนาจและก็ผลตอบแทนที่เมืองพากเพียรควบคุมผูกขาด เมืองเองได้ใช้กลไกทางการทำลายล้าง แล้วก็กลไกทางอุดมการณ์สำหรับในการควบคุมรวมทั้งสร้างความยุติธรรมต่อการจัดการป่า แต่ว่าระบบรวมศูนย์อำนาจเมืองกำลังถูกคลอนแคลนจากการเคลื่อนไหวของป่าชุมชนแล้วก็ป่าเมือง ด้วยการเปลี่ยนจากระบบรวมศูนย์มาเป็นระบบธรรมาภิบาลการจัดการร่วมระหว่างเมืองกับประชาชนสังคม ที่มีระบบระเบียบบริหารเชิงซ้อน